วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558

ทำความเข้าใจก่อนเริ่มการเขียนโปรแกรม Visual Basic


  จุดมุ่งหมายของการเขียนโปรแกรม
1. เนื่องจากคอมพิวเตอร์สามารถคิดคำนวณได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง
2. คอมพิวเตอร์ไม่สามารคิดเองได้ และจะทำงานทุกอย่างตามที่ป้อนเข้าไป
3.เป็นหน้าที่ของโปรแกรมเมอร์ในการเขียนโปรแกรมเพื่อสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างถูกต้อง และตรงตามความต้องการ

ขั้นตอนการเขียนโปรแกรม
      การเขียนโปรแกรมในสมัยแรกๆ จะต้องเขียนในภาษาที่คอมพิวเตอร์เข้าใน เรียกว่า "ภาษาเครื่อง" หรือ "Machine Language" เป็นรูปแบบของเลขฐานสองประกอบด้วย 0 , 1
      ต่อมามีการสร้างภาษาโปรแกรม (Programming Language) เป็นคำสั่งภาษาอังกฤษอย่างง่าย ต้องทำการแปลคำสั่ง (Complie) ให้เป็นภาษาที่คอมพิวเตอร์เข้าใจ ด้วยเครื่องมือที่ชื่อว่า คอมไพเลอร์ (Compiler)
      โปรแกรมเมอร์เขียนโปรแกรมต้นฉบับ (Source Code) ด้วยภาษาโปรแกรมใดๆ ต้องใช้คอมไพเลอร์ในการแปลโปรแกรมต้นฉบับ  ให้เป็นภาษาเครื่อง  ทำให้ได้ไฟล์นามสกุล .EXE ซึ่งสามารถรันใช้งานได้เลย
      ทำการรันโปรแกรม ซึ่งเป็นการส่งภาษาเคื่องของโปรแกรมจากไฟล์ .EXE ไปให้ซีพียู เพื่อสั่งให้ซีพียูทำงานตามคำสั่งต่างๆ ของโปรแกรม

ทำความรู้จักกับโปรแกรม visual basic

        โปรแกรม visual basic เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม หรือโปรแกรมประยุกต์อื่น จุดเด่นของโปรแกรมนี้คือสามารถใช้งานได้ง่ายแม้แต่เป็นผู้ที่เริ่มศึกษาการเขียนโปรแกรมมือใหม่หรือมือโปรก็นิยมใช้กัน รูปแบบการเขียนโปรแกรมของ visual basic จะแตกต่างจากโปรแกรมหรือการเขียนภาษาอื่น มีชุดคำสั่งมาช่วยสนับสนุนทางด้านการเขียนโปรแกรมมืเครื่องมือที่ช่วยในการออกแบบโปรแกรม โปรแกรมvisual basic จะเน้นการออกแบบโปรแกรมประยุกต์ที่ใช้ติดต่อกับ ผู้ใช้งาน ที่เรียกว่า Graphic User Interface (GUI)และในการเขียนโปรแกรมนั้นจะเขียนแบบ Event - Driven Programming คือ โปรแกรมจะทำงานก็ต่อเมื่อเหตุการณ์ (Event)
          เกิดขึ้น ตัวอย่างของเหตุการณ์ได้แก่ ผู้ใช้เลื่อนเมาส์ ผู้ใช้กดปุ่มบนคีย์บอร์ด ผู้ใช้กดปุ่มเมาส์ เป็นต้น เครื่องมือ หรือ คอนโทรล ต่าง ๆ ที่ Visual Basic ได้เตรียมไว้ให้ ไม่ว่าจะเป็น Form,TextBox, Label ฯลฯ โปรแกรมจะมองว่าเป็นวัตถุ (Object) นั่นคือ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือใด ๆ ใน Visual Basic จะเป็นวัตถุทั้งสิ้น ผู้เขียนสามารถที่จะควบคุมการทำงาน แก้ไขคุณสมบัติของวัตถุนั้นได้โดยตรง ในทุกๆ วัตถุจะมีคุณสมบัติ (properties) และเมธอด (Methods) ประจำตัว ซึ่งในแต่ละวัตถุ อาจจะมีคุณสมบัติและเมธอดที่เหมือน หรือต่างกันก็ได้ ขึ้นอยู่กับชนิดของวัตถุ

    

รูปแบบการเขียนอัลกอริทึม ต่อ 3

3.รหัสจำลองที่เรียกว่า การเขียนซูโดโค้ด (Pseudo Code)
      คือการเขียนคำอธิบายขั้นตอนการทำงานของโปรแกรม  โดยใช้ถ้อยคำผสมระหว่างภาษาอังกฤษและภาษาการเขียนโปรแกรมแบบโครงสร้าง


รูปแบบการเขียนอัลกอริทึม ต่อ2

รูปแบบการเขียนอัลกอริทึม
2.การเขียนผังงาน (Flowchart) 

       คือ การใช้รูปภาพสัญลักษณ์ แทนขั้นตอนการเขียนโปรแกรม
ประโยชน์ของผังงาน
1. ช่วยลำดับขั้นตอนการทำงานของโปรแกรม และสามารถนำไปเขียนโปรแกรมได้อย่างถูกต้อง
2. ช่วยในการตรวจสอบ และแก้ไขโปรแกรมได้ง่าย เมื่อเกิดข้อผิดพลาด
3. ช่วยให้การดัดแปลง แก้ไข ทำได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
4. ช่วยให้ผู้อื่นสามารถศึกษาการทำงานของโปรแกรมได้อย่างง่าย และรวดเร็ว มากขึ้น
รูปภาพสัญลักษณ์

การเขียนผังงาน (Flowchat)มี 3 รูปแบบ คือ
1.ผังงานแบบเรียงลำดับ  (Sequemce Flowchart)   
        ผังงานแบบเรียงลำดับ  (Sequemce Flowchart) เป็นการเขียนผังงานแบบง่ายที่สุด ทำงานจากบนลงล่าง ตามลูกศ ดังตัวอย่างตามภาพ 


2.ผังงานแบบมีทางเลือกหรือแบบมีเงื่อนไข   (Selectiom or Condition Flowchart)  
       คือการตรวจสอบเงื่อนไขถ้าเป็นจริง ก็ทำงานตามเงื่อนไขที่เป็นจริง ถ้าเป็นเท็จก็ทำตามเงื่อนไขที่เป็นเท็จ  จะมีให้เลือกเพียง 2 ทางเลือก และจะต้องเลือกทำทางใดทางหนึ่ง ดังตัวอย่างในภาพ


3.ผังงานแบบการทำงานแบบวนซ้ำ  (Repetiton or Loop Flowchart) 
         คำสั่งในกลุ่มนี้ เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่จะต้องใช้งานบ่อยครั้งที่สุด ไม่ว่าคุณจะพัฒนาแอพพลิเคชันด้วย
ภาษาอะไรก็ตาม เพราะมีหน้าที่สำหรับสั่งให้ VB ประมวลผลซ้ำกลุ่มคำสั่งเดิม วนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะ
ตรงกับเงื่อนไข ที่คุณต้องการ และยังมีหน้าที่สำหรับลดขั้นตอนในการเขียนโค้ด







—รูปแบบการเขียนอัลกอริทึม

รูปแบบการเขียนอัลกอริทึม
1.ลักษณะการบรรยาย (Narrative Description) 
  ตัวอย่างโจทย์ ให้เขียนอัลกอริธึมเพื่อหาคะแนนเฉลี่ยของการสอบทั้งหมด 5 วิชา โดยวัดผลจากคะแนน ถ้าคะแนนต่ำกว่า 50 สอบไม่ผ่าน  แต่ถ้าคะแนนมากกว่า 50 ขึ้นไป สอบผ่าน
อัลกอริทึ่มแบบบรรยาย

    ใส่คะแนนสอบทั้ง 5 วิชา คอมพิวเตอร์คำนวนค่าเฉลี่ยโดยการบวกคะแนนทั้ง 5 วิชา แล้วหาร 5 ถ้าค่าเฉลี่ยต่ำกว่า 50 แสดงข้อความสอบไม่ผ่าน  แต่ถ้าค่าเฉลี่ยสูงกว่า 50 แสดงข้อความสอบผ่าน

—อัลกอริทึม (Algorithm)

—อัลกอริทึม  (Algorithm)
—            ความหมายของ Algorithm ก่อนที่จะลงมือเขียนโปรแกรม  ต้องออกแบบขั้นตอนการทำงาน  หรืออัลกอริทึม  (Algorithm)  ก่อน  ซึ่งเป็นเครื่องมือในการแสดงขั้นตอนการทำงาน ของระบบงานใด ๆ  เพื่อให้การเขียนโปรแกรมเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและง่ายขึ้น

—ประโยชน์ของอัลกอริทึม (Algorithm) คือ 
       ทำให้ไม่สับสนกับวิธีเนินงาน  เพราะทุกอย่างจะถูกจัดเรียงเป็นขั้นตอนมีวิธีการและทางเลือกไว้  เมื่อนำมาใช้จะทำให้การทำงานสำเร็จอย่างรวดเร็ว ทำให้ปัญหาลดลงหรือสามารถค้นหาต้นเหตุของปัญหาได้อย่างรวดเร็ว  เนื่องจากกระบวนการถูกแยกแยะกิจกรรม  ขั้นตอน และความสัมพันธ์ ออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน

ที่มาของคำว่าอัลกอริทึม (Algorithm)
          คือ คำที่ตั้งให้เป็นเกียรติแก่ อแลน เดอะ กอริทึม ทิวริง (Alan The Gorithm Turing) ผู้ค้นพบว่าการพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์หรือปัญหาทางตรรกะ สามารถหาคำตอบได้ด้วยชุดของขั้นตอนวิธีที่ถูกต้อง

รูปแบบการเขียนอัลกอริทึม

1.ลักษณะการบรรยาย (Narrative Description) 

2.การเขียนผังงาน (Flowchart)

3.รหัสจำลองที่เรียกว่า การเขียนซูโดโค้ด (Pseudo Code) 


การนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการแก้ปัญหา

          ในชีวิตประจำวันทุกคนต้องเคยพบกับปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการเรียน การงาน การเงิน หรือแม้แต่การเล่นเกม เมื่อพบกับปัญหา แต่ละคนมีวิธีที่จะจัดการหรือแก้ปัญหาเหล่านั้นแตกต่างกันไป  ซึ่งแต่ละวิธีการอาจให้ผลลัพธ์ที่เหมือนหรือแตกต่างกันบ้าง  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรู้  ความสามารถ และประสบการณ์ของบุคคลผู้นั้น
          หากวิเคราะห์วิธีการแก้ปัญหา จะพบว่าสามารถสรุปเป็นทฤษฎีซึ่งมีรูปแบบที่แน่นอนได้  และบางครั้งต้องอาศัยการเรียนรู้ในระดับสูง เพื่อแก้ปัญหาบางอย่างให้สมบูรณ์แบบ
          การนำคอมพิวเตอร์มาช่วยในการแก้ปัญหา เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์  เช่น การคำนวณ  การพูด  การจำ โดยอาศัยความรู้และประสบการณ์ของบุคคล และการเขียนโปรแกรมสั่งการให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานตามที่เราต้องการ โดยมีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ รองรับ